อากาศหนาวๆแบบนี้ ทำอะไรอุ่นๆดีกว่าาา หนึ่งในสิ่งที่แพมชอบนั่นก็คือ การอบขนม วันนี้แพมจะมาแชร์การอบขนมที่ไม่ธรรมดาเพราะนอกจากจะทำง่ายและยังได้สุขภาพอีกด้วย ขนมปังที่เราจะมาลองทำกันนั้นก็คือ ขนมปังโลฟธัญพืช Mixed Grains Loaf สูตรนี้ประยุกต์มาจากหนังสือนิตยสารครัว ฉบับ 251 เมื่อปี 2558 ที่ผ่านนี้เองคะ โดยรวมๆใช้ได้ แต่แพมปรับปรุงสูตรจากเดิมเล็กน้อย เริ่มกันเลยนอะะะ…
♥ ขนมปังโลฟธัญพืช Mixed Grains Loaf ♥
สูตรนี้จะได้ 2 โลฟใหญ่ๆนะคะ
ไซส์ของพิมพ์ประมาณ 4.5*9 นิ้ว (ทาน้ำมันบางๆแล้วโรยด้วยเกล็ดข้าวโพด(cornmeal)ภายในพิมพ์จนทั่ว ป้องกันขนมปังติดพิมพ์)
ส่วนผสมส่วนที่ 1 >> แช่เมล็ดธัญพืช
เมล็ดฟักทองอบ 80 กรัม
เมล็ดทานตะวันอบ 40 กรัม
เมล็ดมะม่วงหิมฯอบ 20 กรัม
เมล็ดดอกป๊อปปี้/งาขี้ม่อน/งาดำ-งาขาว (ตามใจชอบนะคะ) 20 กรัม
เมล็ดเฟล็ก 20 กรัม
น้ำเปล่า 150 กรัม
ส่วนผสมส่วนที่ 2 >> โดว์
แป้งโฮลวีทชนิดละเอียด 100 กรัม
แป้งขนมปัง 550 กรัม
แป้งไรย์ 180 กรัม
ยีสต์แห้งชนิดจืด 2+1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 40 กรัม (ใช้น้ำผึ้งหรือเมเปิ้ลไซรัปแทนได้)
เกลือ 20 กรัม
น้ำเย็นจัด 420 กรัม(ไม่ต้องเทใส่ทั้งหมดในรอบเดียว)
เนยจืดละลายหรือน้ำมันดอกทานตะวันในกรณีที่ไม่ทานเนย 40 กรัม
ส่วนผสมที่ 3 >> น้ำผึ้งทาหน้าขนม
น้ำผึ้ง 20 กรัม
น้ำเปล่า 30 กรัม
** ต้มน้ำผึ้งกับน้ำเปล่าจนเดือด เก็บไว้ทาหน้าขนมปังตอนอบสุกใหม่ๆ
วิธีทำ (ถ้าใครมีเรื่องตีสามารถใช้เครื่องตีได้เลยนะคะ แต่แพมขออนุญาตินวดด้วยมือคะเพราะชอบแบบนี้มากกว่า ถ้าทำไม่เยอะ)
•ใส่ส่วนผสมส่วนที่ 1 ลงในถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชม.เผื่อให้เมล็ดธัญพืชทั้งหมดดูดซับน้ำนะคะ ใครจะทิ้งข้ามคืนก็ได้ค่า)
•เมื่อเมล็ดธัญพืชดูดซับน้ำจนอวบจนอ้วนแล้ว ให้รินน้ำออกแล้วสับหยาบๆๆ พักไว้
•เตรียมกะละมังใหญ่ๆเอาไว้ ใส่ส่วนแป้งทุกชนิดที่ตวงไว้แล้ว เกลือ น้ำตาล ยีสต์(เทยีสต์ให้ห่างๆกับเกลือนะคะ เพราะมันไม่ถูกกันคะ ขนมปังมันไม่ขึ้น) คนให้เข้ากัน
•ใส่น้ำเย็นลงไป แต่ยังไม่ต้องใส่หมดนะคะ เหลือไว้เล็กน้อย ค่อยๆเติมได้ทีหลัง นวดพอให้เข้ากัน
•ใส่น้ำมันหรือเนยลงไป ตามด้วยเมล็ดธัญพืชสับหยาบๆ จากนั้น >>>> วัดพลังแขนกันหน่อยนะฮะ นวดดดดดด นวดดดคะนวด(บางคนถึงพูดกันว่า คนที่ทำขนมปังจะใช้แขนเดินมากกว่าขานะคะ เครดิตจากน้องครีม Baker ไอริชผับ เชียงใหม่ 555+ ท่าจะจริง!) ถ้าแป้งแห้งก็สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้อีก แต่แนะนำให้เติมครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้าแป้งแฉะก็สามารถเติมแป้งขนมปังลงไปได้เหมือนกัน ครั้งละ 1 ชต. ออกแรงนวดจนขนมปังเริ่มเนียนและไม่ติดกะละมัง
•โรยนวลแป้งเล็กน้อยบนโต๊ะ นวดบนโต๊ะได้เลยคะ จับเวลานวดให้เนียน ไม่ควรเกิน 20 นาทีนะคะ ไม่จำเป็นต้องนวดจนคลึงเป็นฟิมล์ได้ นวดพอที่แป้งจับกันเป็นก้อน ไม่ค่อยติดมือ เหนี่ยวและยืดหยุ่น
•ทาเนยหรือน้ำมันบางที่กะละมังค่ะ คลึงหน้าแป้งโดว์ให้เนียนจากนั้นใส่ลงไปในกะละมังเพื่อพรูฟครั้งที่ 1 คลุมหน้าโดว์ด้วยพลาสติกแรปหรือผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ พักให้ขึ้นเป็น 2 เท่า
•เมื่อโดว์พรูฟเป็นสองเท่าแล้ว ชกไล่ลมคะ จากนั้นแบ่งออกเป็นสองก้อนเท่าๆกัน คลึงหน้าให้เนียน คลึงเป็นก้อนยาวๆขนาดประมาณพิมพ์ขนม ใส่ก้อนโดว์ลงไปในพิมพ์ ใช้มือกดให้เรียบ•คลุมด้วยพลาสติก พรูฟครั้งที่ 2 ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้โดว์ขยายเป็นสองเท่านะคะ เพราะเราพรูฟครั้งที่ 1 ไปแล้ว ถ้าเรายังฝืนหมักขนมปังให้ขึ้นเป็นสองเท่า อ้วนๆ บวมๆ ใหญ่ๆ เนื้อขนมปังเวลาอบเสร็จมันจะยุ่ยและไม่แน่นค่ะ (เป็นปัญหาของแพมในการทำครั้งแรกเลย) พยายามเช็คให้โดว์ขยายตัวออกมาประมาณ 1.8 เท่าก็พอค่ะ (เวลาไม่ควรเกิน 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของห้องครัวที่พรูฟขนมปังไว้)
•เมื่อการพรูฟครั้งที่ 2 ใกล้จะเสร็จลง (เหลือประมาณ 20 นาที) เริ่มวอมเตาอบได้เลย อุณหภูมิ 180 c ไฟบนล่างและควรวางถาดอบไว้ล่างสุดของเตาอบนะคะ ถ้าขณะอบ ด้านบนของตัวขนมปังของใครเริ่มออกสีน้ำตาลเข้มๆ(กำลังจะไหม้ :D) ควรจะคลุมตัวขนมด้วยฟลอยอะลูมิเนียม
•อบขนมเป็นเวลา 30-45 นาที ไฟบนล่าง 180 C เมื่ออบเสร็จแล้วทาหน้าขนมด้วยน้ำผึ้งต้มกับน้ำเปล่า ณ ขณะขนมปังร้อนๆเลยนะคะ แกะขนมปังออกจากพิมพ์ ผึ่งไว้บนตะแกรงจนเย็น
วิธีการเก็บรักษา
– ขนมปังตัวนี้จะเก็บได้ประมาณ 4-7 วัน (ณ อุณหภูมิห้อง จริงๆผ่านไปซัก 3 วันก็ไม่อร่อยละคะ สำหรับแพมนะ) เวลาเก็บควรหาถุงผ้าหรือถุงกระดาษใส่ไว้ ไม่แนะนำถุงพลาสติกเพราะจะทำให้ขนมปังเสียเร็ว แต่ถ้าอยากเก็บไว้นานๆ สามารถสไลด์เป็นชิ้นๆ ห่อด้วยแรปพลาสติกและฟลอยรอบสุดท้าย แช่ไว้ในฟรีซ วิธีนี้จะเก็บได้ประมาณ 1 เดือนจ้า
-ไม่แนะนำให้เอาขนมปังใส่ตู้เย็นช่องธรรมดานะคะ เพราะว่าเนื้อขนมปังจะแห้ง